จะใหญ่ขนาดไหนกัน ...
เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว
คุณพ่อพินิจ พิทักษ์วาวี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการดูแลอนุรักษ์ต้นชาป่าและการผลิตชาผู่เอ๋อร์ดิบจากต้นชาป่า
ได้รับเชิญให้เข้าพื้นที่ไปดูต้นชาป่าโบราณเพื่อเตรียมวางแผนการทำอุตสาหกรรมชาในเชิงพาณิชย์
ของพื้นที่เขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อย
ในรอยต่อตะเข็บชายแดนเมียนมาร์ - จีน
ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด ที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปโดยสิ้นเชิง
พื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,500 เมตร
สภาพอากาศมีความชื้นสูงและลมพัดแรงตลอดเวลา
และมีหิมะตกในช่วงฤดูหนาว
อากาศโดยรอบมีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี
ในการสำรวจต้นชา
นอกจากคนงานที่นำเข้าไปเองแล้ว ต้องใช้แรงงานชาวบ้านเข้ามาช่วยในการทำงาน
โดยมีกองกำลังทหารช่วยอำนวยความสะดวก
ต้นชาป่าโบราณถูกปกคลุมด้วยวัชพืชและพืชตระกูลมอสและตะไคร่น้ำอย่างแน่นหนา
ต้นชาป่ารวมถึงต้นไม้ในพื้นที่ มีความสูงมากกว่า 15 เมตรเป็นอย่างต่ำ
ทำให้ไม่สามารถสังเกตจากลักษณะใบได้
การสำรวจจึงจำเป็นต้องใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกในการขูดตะไคร่น้ำบนผิวต้นชาออกก่อน
และมีการทำเครื่องหมายบนผิวต้นไม้
การสำรวจต้นชาป่าเพื่อวางแผนการทำงานครั้งนั้น
คุณพ่อต้องอยู่อาศัยในป่ากับชาวบ้านและกองกำลังทหารเป็นระยะเวลากว่า 30 วัน
นอกจากการสำรวจและเก็บข้อมูลแล้ว
ยังได้มีการทดลองผลิตชาผู่เอ๋อร์ในล๊อตแรกเพื่อดูคุณภาพของใบชาอีกด้วย
ผลการสำรวจพบว่ามีต้นชาป่าโบราณในพื้นที่มากกว่า 6,000 ต้น
มีการทำเครื่องหมายสัญลักษณ์เพื่อนำมาใช้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ไว้ทั้งหมด 6,000 ต้น
อายุต้นชาโดยเฉลี่ยของทั้ง 6,000 ต้น ที่ทำเครื่องหมายไว้
มีอายุมากกว่า 2,000 ปีขึ้นไป
ในเรื่องของกำลังการผลิต คาดว่าจะผลิตชาผู่เอ๋อร์ดิบคุณภาพสูงได้มากกว่า 10 ตัน ต่อปี
ต้นชามีความสูงมากกว่า 15 เมตร
แต่ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นแรงงานในอนาคตมีความชำนาญในการปีนต้นชาเป็นอย่างดี
โดยใช้วิธีไต่เชือก
(ภาพบันไดรอบต้นชา เป็นการสร้างบันไดชั่วคราวขึ้น เพื่อให้คุณพ่อพินิจได้ขึ้นไปสำรวจลักษณะใบชาจากบนต้นด้วยตัวเอง)
ใบชามีลักษณะปลายแหลม ยอดใบสีแดง ใบไม่ใหญ่มาก
และใบชาไม่หนา ไม่มีขนใบชา
จากการเก็บข้อมูลหลังการผลิตพบว่าชาที่ผลิตได้มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย
คุณพ่อคาดเดาว่าน่าจะเกิดจากลักษณะของพื้นที่ที่มีความสูงและสภาพอากาศโดยรอบหนาวเย็นตลอดทั้งปี
ในครั้งนั้นได้ทดลองผลิตชาล๊อตแรกไว้ทั้งหมด 5 ตัน
โดยเก็บไว้ที่โกดังในซวงเจียง - ยูนนาน
ยังไม่เคยเปิดจำหน่าย
เนื่องจากคุณพ่อมีความเห็นว่าควรศึกษาดูการพัฒนาตัวของรสชาติชาก่อน เพื่อช่วยในการวางแผนการผลิตต่อไปในอนาคต
ถือว่าแหล่งชาป่าโบราณแหล่งนี้
เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจสำหรับผู้คนที่รักและหลงไหลในการดื่มชา โดยเฉพาะชาผู่เอ๋อร์ดิบ
ด้วยเป็นเขตปกครองพิเศษ แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าไปได้
และต้นชาโบราณรวมถึงต้นไม้มีค่าอื่น ๆ จะได้อยู่อย่างเป็นธรรมชาติ
แต่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอีกเช่นกันว่าวันใดวันหนึ่ง
ด้วยสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างชนกลุ่มน้อยในพื้นที่และความไม่รู้ของชาวบ้าน
ต้นไม้ทั้งหมดรวมถึงต้นชา
อาจจะโดนตัดทิ้งอย่างไม่รู้คุณค่าด้วยเช่นกัน
การเข้าไปใช้พื้นที่โดยได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังทหาร
นอกจากจะเป็นการสร้างงาน , สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว
ยังเป็นการอนุรักษ์ต้นชาป่าโบราณอายุมาก เพื่อเป็นสมบัติให้มวลมนุษยชาติต่อไป
ด้วยความเคารพแด่ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
และด้วยความระลึกถึงลูกชาย
ประเสริฐ พิทักษ์วาวี
ผู้ร่วมสำรวจบุกเบิกกับพ่อ
ระลึกถึงตลอดไป
ภาพทุกภาพบนพื้นที่สื่อโซเชียลมีเดียนี้เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายของบริษัท ชาวาวี กรุ๊ป จำกัดเท่านั้น
ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ m.me/waweetea1961
Facebook : https://www.facebook.com/waweetea1961
Website : https://www.teawawee1961.com/
Instagram : https://www.instagram.com/waweetea/
Line@ : @waweetea
Shopee : https://shopee.co.th/waweetea1961
Tiktok : @waweetea
#ไม่พลาดทุกข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษจากร้านชาวาวี
---------------------------------------------------
คลิก : https://lin.ee/rnLdeTX
---------------------------------------------------
ทีมงานไร่ชาวาวี
#waweetea #chawawee #thaitea #ชาไทย #ชาวาวี #tea #teaworkshop #teatime #teaactivities #teasociety
